จิ้งจอกยอดรักนักชงชา (Yaoi 18+)
กว่าเราจะพบกันมันไม่ง่ายเลย
ผู้เข้าชมรวม
175
ผู้เข้าชมเดือนนี้
8
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ในสายตาของคนในตลาด ฉางเยี่ยเป็นหนุ่มเสเพลที่ใช้ชีวิตไปวันวัน เขาหน้าหล่อเหลา ร่ำรวยจริง เสียอย่างเดียวเขามักเรียกหาผู้ชายไปนอนด้วยกันบ่อย ๆ
แรก ๆ ทุกคนก็แห่กันไปเสนอตัวกันเนืองแน่น แต่ไม่นานบุรุษต่างๆที่นอนกับเขาก็ได้หายตัวอย่างไรล่องลอย ฉางเยี่ยไม่ได้นิ่งนอนใจอะไร เขายังช่วยเหลือครอบครัวคนเหล่านั้นเสมอ ส่งเงินไปทุกเดือน แต่บุคคลอื่นเมื่อรู้ข่าวว่าถ้านอนกับเขาแล้วจะมีอันเป็นไปก็ไม่มีใครกล้าส่งบุตรหลานตนไปยุ่งกับบ้านของฉางเยี่ยอีก
ฉางเยี่ยรู้เหตุผลที่คนเหล่านั้นตาย แต่เขาไม่เเสดงท่าทีอะไร เนื่องจากคนตายไปแล้ว จะทำอะไรได้อีก แต่เขาก็ยังขาดคนนอนด้วยไม่ได้อยู่ดี ดังนั้นคืนนี้ในคืนที่แสนจะปล่าวเปลี่ยว เขาบอกพ่อบ้านและคนข้างกายไม่ให้ติดตาม แม้บ่าวของเขาจะขอติดตามไปเขาก็ไม่อนุญาต เขาเดินออกมาจากบ้านผู้เดียว ขึ้นม้าแล้วมุ่งหน้าไปกลางป่า พบกระท่อมของเขาเองที่เคยสร้างไว้เมื่อนานมาแล้วกับใครคนหนึ่ง..
ใครคนนั้นที่ตกลงปลงใจว่าจะหนีไปอยู่ด้วยกันตัดขาดจากโลกนี้ แต่แลววันหนึ่งในวันที่ฉางเยี่ยยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งนำพิษจากตัวเขาย้ายมาไว้ในร่างกายตนเอง เพราะหวังว่าไม่ว่ายังไงคนทั้งสองจะไม่แยกจากกัน ไม่นานก็จะหนีไปตามกันอยู่แล้ว ดังนั้นพิษอยู่ในตัวเขาก็ไม่เป็นไร
ฉางเยี่ยหยุดม้าแล้วผูกมันไว้ด้านหน้ากระท่อม มีใครคนหนึ่งรออยู่ด้านใน เขาถอนหายใจเฮื้อกใหญ่ ก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน คนนั้นเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา ก็แสยะยิ้มจากนั่งจิบชาอยู่หน้าโต๊ะชานั้น เมื่อเห็นฉางเยี่ยก็กระโดดข้ามโต๊ะโผลมาหาเขาทันที แสงจันทร์สาดส่องเล็ดลอดมาจากประตูกระทบกับบุคลที่ยืนกอดกัน ผมของทั้งคู่ต่างเปล่งแสงเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีเงินสะท้อนแสงจันทร์กลับไปทันใด หางทั้งเก้าต่างปรากฎจากด้านหลังของคนทั้งสองหางของฉางเยี่ยเป็นสีเงินตามสีผม แต่ของอีกบุคคลกลับเป็นสีดำ
จิ้งจอกผู้นั้นใช้มือบีบคางของฉางเยี่ยที่ทำหน้าไม่เต็มใจ แต่ถึงอย่างนั้นฉางเยี่ยขัดขืนไม่ได้ เล็บแหลมๆ ของบุคคลตรงหน้าค่อย ๆ ข่วนเสื้อของฉางเยี่ยออกทีละชิ้น ทีละชิ้น เสื้อผ้าที่ขาดลิ่วปลิวหล่นไปตามสายลมที่พัด ฉางเยี่ยอยู่ในสภาพผ้าขาดรุ่งริ่งทำได้เพียงกลั้นน้ำตาแล้วเบือนหน้าหนีเท่านั้น
หวนคิดเรื่องเก่า ชีวิตช่างน่าขันสิ้นดีคนที่สร้างกระท่อมที่นี่กลับไม่อยู่ด้วยกันกับเขา ในคืนนั้นหลังจากชักนำพิษเข้าร่างกายตนคนผู้นั้นกลับเปลี่ยนไป ลืมเลือนเขาและแต่งงานกับสตรีสูงศักดิ์ไปเสียดื้อๆ ส่วนเขาซึ่งเป็นเพียงญาติห่าง ๆ กับรัชทายาท จึงจำใจ ทิ้งฐานันดรศักดิ์ออกมาเป็นพ่อค้าคนหนึ่งเท่านั้น ใช่บุคคลนั้นที่รักกับเขาคือองค์ชายสามผู้เป็นรัชทายาทอยู่ตอนนี้สำหรับเขารัชทายาทเอื้อมถึงยากเกินไป ไหนไหนเรื่องราวรัชทายาทก็ลืมไปเสียหมดแล้ว ฉางเยี่ยจึงจำใจตัดใจและก้าวออกมา
พิษในร่างกายก็ระงับไม่ได้เลยสักนิด หมอคนไหนรักษาก็ไม่หายเสียที ไม่รู้ต้นตอของพิษ ต่อมามีบุคคลลึกลับปรากฎตัวต่อเขาบอกว่าเป็นปีศาจจิ้งจอกเก้าหางกำลังหาคู่อยู่ เขาถูกใจฉางเยี่ยมานานแล้ว เพียงแต่ตอนนั้นฉางเยี่ยมีคนรักอยู่ก่อนเขาจึงมิอยากทำให้คนรักต้องพรากกัน แต่วันนี้เมื่อทราบข่าวว่าคนทั้งสองต่างห่างหายจากกัน เขาจึงมาพบกับฉางเยี่ย เขายังรู้อีกว่าในร่างกายของฉางเยี่ยมีพิษกามราคะ ในทุกวันทุกคืนจะโหยหาแต่คู่นอน หาคนนอนด้วย ดังนั้นเขาจึงเสนอตนเอง หากฉางเยี่ยเป็นของเขาฉางเยี่ยก็จะเป็นอมตะ ไม่ต้องแก่ตายเหมือนมนุษย์ อีกอย่างเขาก็จะรักและทะนุถนอมฉางเยี่ยเป็นอย่างดี
ในคราแรกฉางเยี่ยไม่เชื่อ เขาจึงปฏิเสธและด่าทอคนตรงหน้า จิ้งจอกไม่โกรธมอบนกหวีดให้เขา บอกเขาว่าหากคืนนี้ทนไม่ไหวให้เป่าเรียก เขาจะรีบมาทันใด ยังยิ้มและกำชับว่าอย่านอนกับใครนอกจากเขาเด็ดขาดจากนั้นจิ้งจอกก็หายไป ฉางเยี่ยตกใจถอยหลังจนสะดุดนอนล้มกับพื้น กลัวกับสิ่งที่ตนเห็นเมื่อครู่ ตกเย็นก็นอนไม่หลับ พลิกไปมา เขากลัวที่ต้องนอนคนเดียว จึงออกมาด้านนอกไปเดินตลาดดูการละเล่นยามกลางคืน มีบุรุษมากมายส่งยิ้มให้เขา เขาเองก็เพิ่งอกหักมา เมื่อเห็นคนยิ้มให้ก็อยากหากาวใจพอดี
คืนนั้นได้คุยกับนักบรรเลงคนหนึ่ง พอพระจันทร์เลื่นมากลางหัว ในหัวรู้สึกมึนงง รู้สึกร้อนลุ่มไม่ไหวร่างกายเหมือนจะล่องลอยไปอย่างไรไม่รู้ จึงเผลอได้เสียกับนักบรรเลงคนนั้น เกือบรุ่งสางเห็นเงาคนยืนอยู่ปลายเตียง แน่นอนจิ้งจอกตนนั้นยืนรออยู่แล้ว จิ้งจอกกัดฟันพูดด้วยความโกรธ เขาตะคอกใส่ฉางเยี่ย ว่าทำไมไม่เป่านกหวีดเรียกเขา ฉางเยี่ยเห็นว่านักบรรเลงจะตื่นเอาได้ จึงทิ้งเงินวางไว้บนเตียงปึกหนึ่งแล้วลากจิ้งจอกออกมา
เขาคุยกับจิ้งจอกดีดี กล่อมให้เขากลับบ้านพร้อมตน จิ้งจอกเงียบขรึมกลับบ้านพร้อมฉางเยี่ย ไม่กี่ชั่วยามผ่านไปมีข่าวว่ามีสัตว์ป่าฆ่านักบรรเลงตายคาห้องหอในโรงเตี้ยม ฉางเยี่ยรู้ข่าวก็พอคิดได้ว่าเป็นฝีมือใคร คนที่นั่งทานข้าวหน้าเขานั่นเอง ฉางเยี่ยกลัวมาก จึงเก็บกดอารมณ์ไว้ทำเหมือนไม่มีอะไร แต่ครั้นจะตักน้ำแกงมือก็สั่น จิ้งจอกเห็นเช่นนั้นจึงหายตัวไป ทิ้งเพียงจดหมายไว้ว่า อีกหนึ่งเดือนให้ไปพบกับเขากลางป่า เน้นย้ำว่าต้องไปที่กระท่อมกลางป่านั้น หากไม่ไปคนสร้างกระท่อมหรือคนที่อยู่ในใจของฉางเยี่ยจะตายแน่นอน
ฉางเยี่ยเห็นเช่นนั้นทั้งกลัว และห่วงรัชทายาท จึงตัดสินใจไม่ได้ เริ่มใช้ชีวิตอยู่ใต้ความวิตกใช้สุราปกปิดความกลัวของตน มันเรื่องอะไรที่เขาจะต้องไปอยู่กับปีศาจ คนรักตนก็จำตนไม่ได้ แถมยังไปแต่งงานกับสตรีอีก แต่จะทำเช่นไรได้ คนที่เขารักมาแต่แรกไม่เตยเปลี่ยนแปลงคือรัชทายาท หนึ่งเดือนนี้เขาจะใช้ชีวิตที่เหลือไปกับกองเงินที่เขาหามาได้เเล้วกัน ครบเดือนเขาจะไปพบจิ้งจอกตัวนั้น แม้ถูกฆ่าก็ไม่เสียดายแล้ว..
แต่พิษในตัวยังไม่ถูกแก้ไข ดังนั้นเขาจึงเปลอไผลไปนอนกับบุรุษอื่นๆ อยู่เนือง ๆ แต่ไม่นานคนเหล่านั้นก็จะตายไป แม้เขาจะกลัวแต่เขาก็หยุดไม่ได้ ทุกคืนหากเขาไม่อยากให้ใครตายเพราะเขา ฉางเยี่ยจะลงไปแช่น้ำเย็นยันเช้าอาทิตย์ขึ้นเสมอ ในที่สุดวันสุดท้ายที่จะครบเดือนก็มาถึง เขาระงับความอยากของตนไม่ไหวจึงเผลอไปนอนกับบัณฑิตคนหนึ่งจนได้ แล้วสุดท้ายยามบ่ายคนคนนั้นก็ถึงฆาต
ฉางเยี่ยรู้สึกว่าตนมีบาปกรรมเหลือเกินจึงจำใจขี่ม้ามาพบตามคำสั่งของจิ้งจอกตนนั้นในคืนนี้ เมื่อมาถึงกลับพบว่าหางของตนงอกออกมาสีผมก็เปลี่ยนไป แถมยังโดนคนตรงหน้าทำเสื้อผ้าขาดหลุดรุ่ยอีก .. ขัดขืนก็ไม่ได้ จะร้องไห้ก็ดูอ่อนแอ จึงทำได้แต่ยืนนิ่ง ๆ รอให้จิ้งจอกตนนั้นรังแก
“เจ้ากลัวข้าหรือ รู้ไหมกว่าเราจะพบกันอีกมันไม่ง่ายเลยนะ แถมใจเจ้ายังมีคนอื่นอีก เพื่อเค้าเจ้ายอมมาพบข้าแม้จะตื่นกลัวเช่นนี้ ดูในกระจกสิ หางของเจ้ากลับมาแล้ว … ยาพิษนั่นสำหรับมนุษย์คือพิษ แต่สำหรับเจ้ามันคือยาที่เจ้าจะได้อยู่กับข้าอีกครั้ง คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่ให้มนุษย์คนนั้นกินเข้าไป เพราะข้าย่อมรู้จักเจ้าดีที่สุด เจ้านั้นใจดีจริง ๆ เจ้ายอมชักนำพิษเข้าตนเอง เพื่อเขา แม้ข้าจะเสียใจนิดหน่อยที่เจ้ายอมทำเพื่อเขา แต่ก็ถือว่าไม่เสียเปล่า กลับมาเป็นของข้านะ ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปไหนอีกแล้ว ข้าจักปกป้องเจ้า เราจะไม่แยกจากกันอีกดีไหม”
ฉางเยี่ยตัวสั่นเทา ไม่เลิก มันหมายความว่าไงนะ ฉางเยี่ยยังงงในใจ แต่ไม่ทันได้คิดต่อจิ้งจอกตรงหน้าก็อุ้มเขาท่าเจ้าสาวขึ้นมา แล้วโยนเขาไว้บนเตียง ถอดเสื้อผ้าของตนเองอย่างรวดเร็ว ฉางเยี่ยกลัว และตกใจมาก แต่ไม่กล้าแม้จะเอ่ยถามได้แต่นอนแข็งเป็นหินอยู่เช่นนั้น
“หลังจากเข้าหอเสร็จ เราก็ถือว่าแต่งงานกันเสร็จสิ้นแล้ว ข้าพยายามจะไม่รุนแรงกับเจ้านะ แม้ว่าข้าจะเหลืออดที่ต้องรอนานมาเป็นร้อยปีก็ตาม ข้ารักเจ้านะฉางเยี่ย ข้าสาบานกับแสงจันทร์ว่า ข้าฟ่างเฉินจะรักแต่เจ้าตลอดไป”
พูดจบจิ้งจอกฟ่างเฉินก็เสกเก็บหางของคนทั้งสอง บรรเลงพรมจูบลงที่ซอกหูโลมเลียลูบไล้ไปทั่วหูและลำคอของฉางเยี่ย ใบหน้าที่ขวยเขินของฉางเยี่ยทำให้เขายิ่งมีอารมณ์พลุ่งพล่าน กระชากเสื้อที่ขาดวิ้นของฉางเยี่ยออกจนหมด พูดจูบพรมตามร่างกาย ขบเม้มทำให้เกิดรอยแดงมากมายบนตัวของฉางเยี่ย ยิ่งฉางเยี่ยส่งเสียงร้องครางเขาก็จะยิ่งลูบไล้ให้เกิดความเสียวซ่านไม่หยุด นิ้วมือเล็บแหลมเริ่มกรีดไปตามร่างกายของฉางเยี่ย
ฉางเยี่ยเองก็ทนไม่ไหวเช่นกัน เหมือนคนตรงหน้าจะทำให้เขากลายเป็นของเล่นที่เอาแต่ส่งเสียงครางอยู่อย่างนั้น ใต้แสงจันทร์คนผู้นั้นก็ไม่ได้ดูแย่อะไร ร่างกายก็กำยำ ใบหน้าก็คมเข้มหล่อเหลา บัดนี้ความเสียวซ่านทำให้ฉางเยี่ยขาดสติไร้ความกลัวแล้ว ฉางเยี่ยใช้มือโน้มลำคอคนที่ค่อมเขาอยู่โน้มเอาใบหน้านั้นมาจูบอย่างดูดดื่มเช่นกัน ต่างคนต่างกอดรัดกันฟัดเหวี่ยงไม่มีใครยอมใคร ฟ่างเฉินเห็นว่าฉางเยี่ยทำเช่นนั้นกับตนก็อิ่มเอมใจ
เขาแปลงร่างเป็นมนุษย์อีกครั้ง ใช้นิ้วมือสำรวจภายในร่างกายของฉางเยี่ย ยิ่งใบหน้าเขาทรมานตนยิ่งมีความสุข เพิ่มนิ้วไปทีละนิ้ว ทีละนิ้ว จนตอนนี้ใส่ไปสามนิ้วแล้ว นิ้วของเขาเต็มไปด้วยน้ำใสใส เอาเองก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้วเช่นกัน จึงใช้หางที่สิบของจิ้งจอกเข้าไปแทนนิ้วของเขา ความรู้สึกบีบรัดและความกดดันนี้ทำให้เขามีความสุขสุด ๆ แต่จะยอมแพ้ไวไปไม่ได้จึงดึงคนด้านล่างขึ้นมากอดและอุ้มขึ้นมาทั้งที่ร่างกายคนทั้งสองยังเชื่อมต่อถึงกันอยู่ ฉางเยี่ยเองก็รู้สึกว่าหางนั่นมันใหญ่มาก และตื่นเต้นกว่าที่เขาเคยนอนกับคนอื่นที่เป็นมนุษย์ จะขยับตัวทีรู้สึกลำบากมากเหมือนร่างกายจะแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ทำได้แต่ครางออกมาด้วยความเจ็บปวด ฟ่างเฉินเห็นคนในอ้อมอกครางออกมาไม่หยุดก็ได้ใจอุ้มฉางเยี่ยเดินไปทั่วห้องฉางเยี่ยก็ครางไม่หยุด ถึงโต๊ะชงชาฟ่างเฉินก็จับฉางเยี่ยหันหลัง กดหลังของฉางเยี่ยไว้ ดำเนินการช่วยฉางเยี่ยชงชาจนกาน้ำชาบนโต๊ะนั้นฝาเปิดกระฉอกออก
“แหม แหม ชาที่แสนอร่อยเช่นนี้ เจ้าชงแล้วข้าจะไม่ดื่มได้อย่างไร ถ้าไม่ดื่มมันข้าคงเป็นสามีที่แย่แน่ๆเลยหึ ใช่มั้ย!ภรรยาข้า”
ฉางเยี่ยฟังเขาพูดเพ้อเจ้อ ก็หน้าแดงกร่ำ ต่อว่าเขา “จะทำอะไรก็ทำไป ทำไมต้องมาถามความเห็นของข้าด้วย ไอบ้า!” ฟ่างเฉินได้ยินก็ยิ้มไม่หุบ จับฉางเยี่ยนั่งบนเตียงใช้ชาในกาที่เย็นราดไปบนตัวของฉางเยี่ย จากนั้นก็โลมเลียน้ำชาที่เขาราดลงไปนั่นดื่มกินทั้งหมด กว่าจะเช้าทั้งครู่ก็ชงชากันไปเสียหลายรอบ จนฉางเยี่ยหมดแรงและขอร้องให้เขาหยุดชงชาเสียที ฟ่างเฉินนอนกอดฉางเยี่ยจนเช้า เห็นคนในอ้อมอกยังนอนไม่ตื่นจึงออกไปหาซื้ออาหารและซื้อชุดมาไว้ให้เขาใส่
ชีวิตเหมือนกับได้นอนหลับฝันอีกครั้ง นานนับร้อยปีแล้วที่ไม่ได้ยิ้มเต็มที่ขนาดนี้ ก็คงตั้งแต่ที่ฟ้าดินสั่งให้เขาและฉางเยี่ยแยกจากกันละมั้ง เขายังโกรธแค้นบิดาไม่หาย แต่เดิมนั้นทั่วหล้าต่างรู้ว่าเผ่าจิ้งจอกนั้นบูชาความรัก ไม่ว่าจะเพศใด หรืออายุเท่าไหร่ ความรักเป็นคำตอบทุกอย่าง ฉางเยี่ยเป็นเผ่าจิ้งจอกสีเงิน ส่วนเขาเป็นเผ่าราชาจิ้งจอก ด้วยทั้งสองตกลงปลงใจจะรักกันทั้งคู่จึงจัดงานมงคลสมรสขึ้น กราบไหว้ฟ้าดินแล้ว แต่พอเตรียมจะเข้าหอ บิดาของเขาราชาเผ่าราชาจิ้งจอกกลับหันดาบใส่เผ่าจิ้งจอกสีเงินด้วยเหตุผลที่ว่าเจ้าเผ่าของเผ่าจิ้งจอกสีเงินนั้นไม่ยอมอยู่ใต้อาณัติของราชาจิ้งจอกเสียที ทั้งสองเผ่าจึงฆ่าฟันกันนองเลือดต่อหน้าบ่าวสาวทั้งสองที่ยังคงไม่เข้าหอ
บิดาของฟ่างเฉินยังกล่าวอีกว่างานแต่งเขาเป็นเพียงเหยื่อล่อให้ราชาเผ่าจิ้งจอกสีเงินออกมาเท่านั้น เผ่าราชาจิ้งจอกไม่มีวันยอมรับจิ้งจอกเผ่าสีเงินมาเป็นสะใภ้หรอก ฉางเยี่ยได้ยินก็เข้าใจผิดคิดว่าทั้งหมดเป็นแผนการของฟ่างเฉินด้วย จึงวิ่งหนีเขาไป
อ้อนวอนฟ้าดินบูชายัญตนเอง เพื่อให้คนในเผ่าจิ้งจอกสีเงินมีชีวิตรอด ร่างกายตนจึงสูญสลายส่งคืนแก่ฟ้าดิน ฟ่างเฉินจะไปห้ามกลับไม่ทันแล้วทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนบูชายัญ ทุกคนต่างหยุดสู้รบมองดูการบูชายัญตรงหน้าฟ่างเฉินเสียใจเป็นที่สุดเหมือนหัวใจจะแหลกสลาย เมื่อทุกคนต่างฟื้นคืนเพราะกำลังมิอาจสู้เผ่าราชาจิ้งจอกได้ เผ่าจิ้งจอกสีเงินจึงยอมจำนน แต่แน่นอนคนรักตนตายไปต่อหน้าต่อตา อีกทั้งยังเข้าใจตนเองผิดอีกด้วย
ฟ่างเฉินโกรธแค้นพ่อตนเป็นอย่างมากจึงจบชีวิตพ่อตนเองและแต่งตั้งตนเป็นราชา จากนั้นปล่อยเผ่าจิ้งจอกสีเงินไป แต่เผ่าจิ้งจอกสีเงินก็โกรธแค้นเขามาก มีจิ้งจอกหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกเลี้ยงมาในฐานะน้องชายของฉางเยี่ย เขาโกรธแค้นฟ่างเฉินมากจึงกรีดเลือดสาปแช่งทำให้ทั้งตนเองและฟ่างเฉินกลายเป็นปีศาจจิ้งจอกมาจนทุกวันนี้ แม้ฟ่างเฉินจะไปไหนก็มักจะโดนเด็กคนนั้นเล่นงานอยู่ตลอด ฟ่างเฉินทำได้แค่ป้องกันตัวไม่ฆ่าเด็กคนนั้น เพราะไม่อยากทำผิดต่อฉางเยี่ยอีก…
ชีวิตกว่าจะได้พบกันอีกครั้งไม่ง่ายเลย เมื่อคืนเขามีความสุขอย่างมาก เขาไม่ต้องการกลับไปที่เผ่าอีกแล้วไม่อยากผัวพันกับเรื่องความแค้นใดใดระหว่างสองเผ่าอีก หวังเพียงว่าต่อจากนี้เขาจะใช้ชีวิตอยู่กับฉางเยี่ยในแต่ละวันอย่างมีความสุข เมื่อเปิดประตูเขาก็พบความผิดปกติฉางเยี่ยหายไปแล้ว…
เขาพยายามดมกลิ่นและตามกลิ่นไป พบว่ามีคนลบร่องลอยกลิ่นไปหมดแล้ว เขาวิ่งไปมารอบ ๆ ภูเขาอย่างร้อนรนจนมาเจอฉางเยี่ยริมน้ำตก ฉางเยี่ยดูหวาดกลัวเป็นอย่างมากถอยหนีเขาจนเกือบตกลงไปในหน้าผา ดีที่เขาใช้หางทั้งเก้าคว้าไว้ทัน เขากอดฉางเยี่ยไว้ในอกในขณะที่ฉางเยี่ยเอาแต่ร้องไห้ไม่พูดอะไรกับเขาเลยสักคำ เขาคิดว่าฉางเยี่ยคงตกใจกลัวจึงปลอบลูบหัวอย่างอ่อนโยน พาฉางเยี่ยเดินกลับฉางเยี่ยยังไม่พูดอะไรอีก เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีใดจึงนำอาหารและขนมที่ซื้อมามาป้อนให้ฉางเยี่ย ฉางเยี่ยกลับปัดมือเขาทิ้งไม่กินสิ่งใด และกลับไปนอนบนเตียงไม่หันมาพูดกับเขาอีก
วันแรกหลังการเข้าหอ เขาทำมันไม่ดีหรือไง ฉางเยี่ยจึงเมินเขาเช่นนี้ พรางนั่งคิดไปทันใดนั้นฟ่างเฉินก็รู้สึกได้มามีบางอย่างอยู่ด้านนอก เขารีบวิ่งออกมาดูจึงพบกับปีศาจจิ้งจอกสีเงินตัวนั้นตัวที่เล่นวานเขามาตลอด หรือที่ฉางเยี่ยเปลี่ยนไปก็เพราะไอตัวนี้
“เจ้ามาทำไมฉางไป๋ หรือว่าที่ฉางเยี่ยเปลี่ยนไปก็เป็นเพราะเจ้า เจ้าทำอะไรกับเค้ากันแน่!!”
“หึหึ อยากจะเป็นพี่เขยข้าจนตัวสั่น เจ้าทำอะไรไว้บ้างล่ะ พ่อเจ้าทำอะไรไว้บ้าง!! อย่าลืมสิ่ที่ฉางเยี่ยสูญสลายไปหนึ่งครั้งเพราะใคร เพราะเผ่าของเจ้า เพราะพ่อของเจ้า หรือเผลอๆอาจเป็นเพราะตัวเจ้าด้วย ใช่หรือไม่!! ข้าทำอะไรไปเหรอ ข้า… ก็แค่ให้พี่ชายของข้ากลับมาเป็นเดิม จำเรื่องราวเดิม ๆ ที่เค้าถูกเจ้าทำร้ายได้ยังไงล่ะ!! ฮ่าฮ่า ทำไมกลัวละซิ่! เห็นเจ้าทำให้เค้ากลับสู่สถานะเดิมได้ข้าก็ดีใจจริงๆ แต่เหมือนเจ้าจะไม่ยอมให้เขากินยาหวนระลึกชาตินะ ข้าก็แค่ช่วยให้เขาจำได้ก็เท่านั้นเอง หึหึ” เมื่อเด็กหนุ่มพูดจบ เฟิ่งเฉินไม่ทันได้พูดแก้ตัวว่าเขาไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ตอนนั้น แต่ก็ไม่ทันแล้ว ด้านหลังมีดาบยาวแทงทะลุท้องของเขา เขาทำได้เพียงยิ้มไม่กล้าหันไปมอง เพราะเขาคิดว่าการหันไปมองหน้าคนที่แทงนั้นจะทำให้เขาเจ็บปวดที่มากกว่าแผลที่แทง เขาล้มลงกับพื้น
เด็กน้อยฉางไป๋ก็โดดลงมาจากต้นไม้ คุกเข่าทำความเคารพพี่ชายที่ยืนดูอยู่ด้านหน้าเขา “ท่านพี่ ข้ามารับท่านกลับเผ่า คนเผ่าเราจะต้องดีใจมากแน่ที่ท่านกลับมา ข้าเอง ข้าไม่ดีเองที่หาท่านเจอช้ากว่าไอหมอนี่ ท่านกลับกับข้าเถิดพี่”
ฉางเยี่ยเดินมาจากด้านหลังของฟ่างเฉิน ฉางเยี่ยกำลังจะก้าวขาออกไปหาฉางไป๋ก็ถูกเฟิ่งเฉินดึงขาไว้ ฉางเยี่ยก็ก้าวไปโดยไม่ลังเล ฟ่างเฉินรู้สึกใจเจ็บปวดจึงหลับตาและสลบไป….
ฉางเยี่ยบอกกับฉางไป๋ตามตรงว่าเขาได้ตายไปแล้ว ต่อให้จำได้ก็ไม่สามารถกลับไปได้อีกแล้ว อีกทั้งยังบังคับฉางไป๋ดูดไอปีศาจจากฉางไป๋เข้าตัวอีก พร้อมบอกฉางไป๋ว่าเขาเลือกเเล้ว จะเป็นปีศาจจิ้งจอกและอยู่คู่กับเฟิ่งเฉิน “ร้อยกว่าปีที่แล้วข้ารู้สึกเช่นไร ถึงตอนนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง เจ้าเถิดโตขนาดนี้ไม่ตั้งตนเป็นเจ้าเผ่ากลับมาใช้ชีวิตเป็นปีศาจเล่ร่อนไปวันวันใช้ได้เสียที่ไหน กลับไปที่เผ่าแล้วตั้งตนเป็นเจ้าเผ่าเสีย ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะใช้ชีวิตอยู่กับเขาเป็นปีศาจจิ้งจอกที่อยู่คู่กันตลอดไป อดีตให้มันจบไปตั้งแต่ครั้งนั้นเถิด พี่รักเจ้านะ เจ้าต้องเติบโตได้แล้วฉางไป๋” ฉางไป๋น้ำตานองหน้ากอดพี่สุดรักของตนไว้ไม่คิดว่าพี่จะไม่เลือกเขา “ได้ ข้าจะยอมรับมันคำตอบของท่าน หากวันใดคนผู้นี้ทำท่านเสียใจข้าจะมาฆ่ามันแล้วพาท่านกลับไปด้วยตัวข้าเอง ข้าเองก็รักท่านนะพี่ พี่ของข้า” ฉางไป๋จำใจกลับเผ่าเพราะนี่เป็นความต้องการของฉางเยี่ย
ฉางเยี่ยเดินมาเห็นเจ้าจิ้งจอกดำที่โดนเขาแทงใจเสาะไม่ยอมลืมตาเสียทีจึงพาไปทำแผลด้านในกระท่อม
ผ่านไปหนึ่งสองชั่วยามฟ่างเฉินรู้สึกตัว มองไปรอบ ๆ ภาวนาให้ทั้งหมดเมื่อครู่เป็นความฝัน เหลียวมองไปทั่วห้องกลับไร้เงาของคนรักตนเองเขาขยับนั่งพิงหัวเตียงน้ำตาไหลนองอาบแก้ม สุดท้ายเมื่อฉางเยี่ยจำได้ก็ทิ้งเขาไป ร้องไห้อยู่พักหนึ่งก็มองที่แผลตน เอ๊ะ!แล้วใครทำแผลให้เขาเล่า ใครทายา ใครพามาที่เตียง เขาพยายามแกะผ้าพันแผลออก ก็พบว่าแผลสมานใกล้หายดีแล้ว แผลหายเร็วแบบนี้ต้องเป็นเลือดของจิ้งจอกสีเงินแน่นอน ดังนั้นใบหน้าที่โศกเศร้าของเขาก็เริ่มเผยรอยยิ้มที่มุมปาก
“เปลี่ยนอารมณ์ง่ายเสียจริง เดี๋ยวร้องไห้ เดี๋ยวยิ้ม ข้าไม่น่าเสียเลือดให้ท่านเลย นี่ยาของท่านรีบกินพอหายร้อนแล้วจะขมได้ กินแล้วก็รีบนอน” ฉางเยี่ยกล่าว
“หากนอนเจ้าจะไม่ทิ้งข้าไปใช่ไหม อย่าไปไหนนะ อย่าไปเลย หากเจ้าอยู่กับข้าแล้วยังโกรธแค้นจะเอามีดมาแทงข้าอีกกี่ครั้งก็ได้ แต่อย่าไปเลยนะ ข้ารักเจ้า” ฟ่างเฉินพูดทั้งน้ำตา ฉางเยี่ยอดขำไม่ได้จึงบอกว่า เขาจะไม่ไป เผ่าจิ้งจอกสีเงินบูชาความรัก เพราะความรักนั้นยิ่งใหญ่มาก ฉางเยี่ยให้อภัยเขาแล้ว และหวังว่าจะใช้ชีวิตอยู่กับเขาในทุก ๆ วัน ทั้งคู่กอดกันจนวันนั้นแผลของเฟิ่งเฉินก็หายดี ทีนี้ก็ชากันตลอด
จบ…คนอ่านดื่มชาได้555+
ผลงานอื่นๆ ของ Sunichi-Chan ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Sunichi-Chan
ความคิดเห็น